CRC Café : Study Management 1 การบริหารจัดการโครงการวิจัย1

วันจันทร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2562

Study Management 1 การบริหารจัดการโครงการวิจัย1


การบริหารจัดการโครงการวิจัย 
เป็นกระบวนการที่ผู้วิจัยหลัก โดยอาศัยความร่วมมือของสมาชิกในทีมวิจัย ดำเนินการวิจัยตรงตามที่กำหนดไว้ในโครงร่างการวิจัย ทำให้ผลงานวิจัยที่ได้มีคุณภาพ  ข้อมูลมีความน่าเชื่อถือ ถูกต้องตามหลักสากลด้านจริยธรรมและการปฏิบัติวิจัยที่ดี โดยคำนึงถึงความปลอดภัย ความเป็นอยู่ที่ดี รวมทั้งเคารพในสิทธิศักดิ์ศรี ของอาสาสมัคร 

การบริหารจัดการโครงการวิจัย แบ่งเป็น 3 ระยะ
      1.การบริหารจัดการโครงการวิจัยระยะเตรียมการ 
         (Study Preparation Period)
      2.การบริหารจัดการโครงการวิจัยระยะดำเนินการ 
         (Study Implementation Period)
     3.การบริหารจัดการโครงการวิจัยระยะปิดโครงการ
        (Study Close out Period)

สถาบันสุขภาพแห่งชาติของประเทศสหรัฐอเมริกา (US NIH: National Institute of Health) แบ่งการวิจัยทางคลินิกตามวัตถุประสงค์การวิจัย ดังต่อไปนี้

1. เพื่อการป้องกัน (Prevention trials) เพื่อหาวิธีป้องกันไม่ให้เกิดโรคในคนที่มีสุขภาพดีไม่เคยเป็นโรคนั้นนั้นมาก่อน และเพื่อป้องกันไม่ให้เป็นซ้ำ เช่น การวิจัยเรื่องยา วิตามิน วัคซีน ยาบำรุงและเกลือแร่ รวมทั้งการวิจัยเพื่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม

2. เพื่อคัดกรองโรค (Screening trials) หาวิธีการคัดกรองโรคก่อนมีอาการในคนที่มีสุขภาพดียังไม่ป่วย เพื่อพยากรณ์ภาวะสุขภาพ เช่น การวิจัยเพื่อหาตัวชี้นำชีวะ Biomarker หาG6PD

3. เพื่อวินิจฉัยโรค (Diagnostic trials) เพื่อหาวิธีการตรวจหรือวิธีการวินิจฉัยใหม่ๆหรือที่มีอยู่ในปัจจุบันให้ดีขึ้น เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยที่ดีขึ้น เร็วขึ้น แม่นยำขึ้น หรืออาจมีราคาถูกลง

4. เพื่อรักษาโรค (Treatment trials) เป็นการทดสอบวิธีการรักษา การผ่าตัดหรือรังสีรักษาแบบใหม่ๆ บางครั้งอาจมีการใช้ยาร่วมใหม่ๆ

5. เพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิต (Quality of life trials) เป็นการวิจัยเพื่อหาแนวทางในการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ทำให้ผู้ป่วยมีความสุขสบายขึ้น ลดผลข้างเคียงที่เกิดจากยา หรือการรักษา

6. เพื่อการสงเคราะห์ (Compassionate use trials) การนำยาวิจัยมาใช้รักษาผู้ป่วยที่ไม่ได้เข้าร่วมวิจัย เนื่องจากผู้ป่วยเหล่านี้ป่วยหนัก และไม่มีทางเลือกในการรักษาในขณะนั้น ซึ่งผิดต่อ ICH GCP และกฎหมายของ US FDA ดังนั้นจึงทำการขออนุมัติได้เป็นรายๆไป

การดำเนินการวิจัยทางคลินิกในปัจจุบัน ส่วนใหญ่เป็นการวิจัยทางคลินิกแบบหลายศูนย์วิจัย (Multicenter Clinical Trials) และมีการเปรียบเทียบผลการดำเนินการวิจัย เพื่อเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จในการทำวิจัยของแต่ละสถานที่วิจัย (Clinical Research Site)

      1.   ดำเนินการวิจัยได้ตรงตามที่กำหนดในโครงร่างการวิจัย
  • รับอาสาสมัครได้ครบตามจำนวนและเวลาทีกำหนด
  • ทำกิจกรรมวิจัยได้ครบตามที่กำหนด
  • จำนวนของอาสาสมัครคงอยู่จนจบโครงการวิจัย
      2.   ข้อมูลมีคุณภาพ เชื่อถือได้ วัดได้จาก
  • จำนวนความผิดพลาดและ ข้อคำถาม (Queries) ซึ่งพบจากการตรวจสอบการวิจัยโดยผู้กำกับดูแลการวิจัย (Clinical Research Associate-CRA) หรือ บางทีเรียกว่า Monitor
  • จำนวนรายงานการเบี่ยงเบน/ฝ่าฝืนไปจากโครงร่างการวิจัย (Protocol Deviation/Violation)  
      3.   อาสาสมัครมีความปลอดภัย โดยดูได้จาก
  • แผน/การจัดการความปลอดภัยแก่อาสาสมัคร
  • การส่งรายงานเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์/ เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ร้ายแรงตามเวลาที่กำหนด













 













ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความใหม่

ชุดตรวจโรคด้วยตัวเองที่บ้าน Home Use Test

ชุดตรวจโรคด้วยตัวเองที่บ้าน Home Use Test ปัจจุบันนี้ชุดตรวจโรคด้วยตัวเองที่บ้านมีใช้กันอย่างแพร่หลาย สามารถอำนวยความสะดวกให้เราได้ตรวจโรค...

บทความแนะนำ