CRC Café : Clinical Research Associate ผู้กำกับดูแลการวิจัย

วันจันทร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2562

Clinical Research Associate ผู้กำกับดูแลการวิจัย


ผู้กำกับดูแลการวิจัย (Clinical Research Associate) หรือที่เรามักเรียกกันว่า CRA หรือ Monitor
ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของผู้ให้ทุน มาช่วยกำกับดูแลการวิจัยเพื่อให้การวิจัยดำเนินไปอย่างถูกต้องตามโครงร่างการวิจัย กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องและหลักจริยธรรมสากล เพื่อคุ้มครองสิทธิ ความเป็นอยู่ที่ดี และความปลอดภัยของอาสาสมัคร ทั้งยังคอยตรวจสอบความถูกต้องขอข้อมูลและให้คำแนะนำการแก้ไขและป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก เพื่อทำให้ข้อมูลที่ได้เป็นที่น่าเชื่อถือต่อสาธารณชน

CRA อาจได้รับการว่าจ้างจากผู้ให้ทุนโดยตรง หรือ จากองค์กรที่รับทำวิจัยตามสัญญา (Clinical Research Organization – CRO) ปัจจุบันนี้มี CRA จำนวนมากที่ทำงานที่บ้าน ที่เรียกว่า Home Based CRA ดูแลสถานที่วิจัยเดียว หรือหลายสถานที่วิจัย ทั้งในระดับประเทศ(Country) และในระดับภูมิภาค (Regional) CRAบางคนทำงานในลักษณะ Freelance คือทำงานหลายองค์กรในเวลาเดียวกัน แบ่งเป็นหลายระดับตามภาระงาน ได้แก่ CRA I, CRA II, CRA III หรือ senior CRA


ผู้ที่จะมาทำหน้าที่ CRA ควรจบการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือสูงกว่าในด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ เช่น เภสัช พยาบาล ทันตแพทย์ ในบางประเทศเช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย ก็อาจมีแพทย์เป็น CRA ด้วยเหมือนกันและผู้ที่จะเป็นCRAควรมีความรู้ในการติดต่อสื่อสารภาษาอังกฤษเป็นอย่างดี มีประสบการณ์ในการทำวิจัยทางคลินิกมาก่อน เช่น อาจจะเคยเป็น พยาบาลวิจัย หรือทำงานในทีมวิจัยมาก่อน มีความเข้าใจในเรื่องโรคและระบบบริการสุขภาพ สามารถเริ่มต้นงานด้วยตัวเองได้ไม่ต้องรอใครมาสั่ง (Self-starter)  บริหารจัดการงานเป็น เมื่อมีงานหลายๆอย่างเข้ามา ต้องรู้ว่าอะไรควรทำก่อนทำหลัง สามารถเรียงลำดับการทำงานได้ ใส่ใจในรายละเอียดของงาน  มีความเชื่อมั่นในตนเอง ยืดหยุ่นได้ มีความสามารถในการเจรจาต่อรอง ปรับตัวเข้ากับคนได้ในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปของแต่ละสถานที่วิจัยที่ต้องไปทำงาน CRA ต้องผ่านการอบรมอย่างน้อยในเรื่อง จริยธรรมการวิจัย การปฏิบัติวิจัยทางคลินิกที่ดี และโครงร่างการวิจัย

เป็น CRA ต้องทำอะไรบ้าง
ระยะเตรียมการ CRA
·   มีส่วนร่วมในการวางแผนการวิจัย ตั้งแต่ช่วยจัดทำโครงร่างการวิจัย เอกสารขอความยินยอม เอกสารต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการทำวิจัยและแบบบันทึกข้อมูล (Case Report Form) จัดทำมาตรฐานการปฏิบัติงาน (Standard Operation Procedure-SOP) ช่วยประเมินคุณภาพของห้องปฏิบัติการกลาง ดูแลตรวจสอบการผลิตและนำเข้าผลิตภัณฑ์วิจัยรวมทั้งการจัดทำคู่มือผู้วิจัย (Investigator’s Brochure)
·   ช่วยจัดทำข้อตกลงต่างๆ เช่น Clinical Trial Agreement (CTA), Material Transfer Agreement (MTA) เป็นต้น
·   ทำ Site Assessment Visit เพื่อประเมินผู้วิจัย ทีมวิจัยและสถานที่วิจัย >ทำรายงานส่งผู้ให้ทุน
·   ช่วยผู้วิจัยจัดเตรียมเอกสารยื่นคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัย (ECs/IRBs) และชี้แจง ปรับแก้เอกสาร จนกระทั่งโครงการวิจัยได้รับการอนุมัติ
·   เมื่อโครงการวิจัยได้รับการอนุมัติจาก ECs/IRBs CRA จัดประชุมอบรมทีมวิจัยเพื่อเริ่มดำเนินการวิจัยที่เรียกว่า Site Initiation Training ซึ่งเป็นการอธิบายโครงการวิจัย ผลิตภัณฑ์วิจัย กิจกรรมวิจัยตั้งแต่การสรรหา การขอความยินยอม การคัดกรองและนัดวิจัยต่างๆ หน้าที่ความรับผิดชอบของแต่ละคน การลงข้อมูลในแบบบันทึกข้อมูล การรายงานและการจัดการหากมีเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ (ร้ายแรง) เกิดขึ้น การมาเยี่ยมกำกับดูแล บางครั้งในคราวเดียวกันนี้อาจมีการอบรมจริยธรรมการวิจัย (Research Ethics-RE) และ การปฏิบัติวิจัยทางคลินิกที่ดี (Good Clinical Practice-GCP)ด้วย หลังการอบรมเสร็จสิ้นอาจมีการทดลองปฏิบัติ (Dry Run หรือ Mock) และคัดกรองอาสาสมัครคนแรกด้วย
ระยะดำเนินการวิจัย
CRA จะมีหน้าที่มาเยี่ยมกำกับดูแลการวิจัยที่สถานที่วิจัย ที่เรียกว่า Site Monitoring Visit เป็นระยะๆ เพื่อ
o  ตรวจเอกสารขอความยินยอม
o  ตรวจความถูกต้องของเอกสารต้นฉบับกับCRF แฟ้มบันทึกข้อมูลผู้ป่วย
o  ทบทวนอาการและเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ หากมีเหตุการณ์ที่ต้องรายงาน ผู้วิจัยได้รายงานหรือยัง  
o  ทบทวนการเบี่ยงเบนไปจากโครงร่างการวิจัย
o  ติดตามคำชี้แจงและการแก้ไขข้อผิดพลาดของผู้วิจัย
o  ตรวจสอบบัญชีรับจ่าย-ผลิตภัณฑ์วิจัย
o  ตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารการเก็บตัวอย่างและตัวอย่าง
o  ตรวจสอบแฟ้มเอกสารสำคัญ
o  ประชุมสรุปปัญหาที่พบ การแก้ไข ปัญหาที่ยังรอการแก้ไข

ความถี่ในการตรวจเยี่ยมขึ้นกับข้อตกลงที่ทำกับผู้ให้ทุน และประเด็นต่างๆที่เกิดขึ้นในสถานที่วิจัย
เมื่อการเยี่ยมแต่ละครั้งเสร็จสิ้น CRA ต้องส่งรายงานการตรวจพบแก่ผู้วิจัยหลักและผู้ให้ทุน

CRA ต้องคอยปรับแก้เอกสารสำคัญต่างๆ เช่น โครงร่างการวิจัย เอกสารขอความยินยอม และช่วยทำรายงานต่างๆเพื่อให้ผู้วิจัยยื่นเสนอต่อ ECs/IRBs หากจำเป็น

ระยะปิดโครงการวิจัย
เมื่ออาสาสมัครคนสุดท้ายจบกิจกรรมวิจัยในการนัดครั้งสุดท้าย การเก็บข้อมูลวิจัยเสร็จสิ้นสมบูรณ์ รวมทั้งการแก้ไขและการตอบข้อสงสัย (Queries)
CRA จะส่งจดหมายนัดปิดโครงการวิจัย เพื่อตรวจนับผลิตภัณฑ์วิจัย ส่งคืนหรือทำลายผลิตภัณฑ์วิจัย ดูแลให้ผุ้วิจัยจัดเก็บรักษาเอกสารวิจัยในที่ที่เหมาะสมปลอดภัย ช่วยทำและส่งรายงานฉบับสมบูรณ์ (Final report) แก่ ECs/IRBs และหน่วยงานควบคุมระเบียบกฎหมาย
ส่งรายงานต่อผู้ให้ทุน

งาน CRA เป็นงานที่ท้าทาย ต้องมีการเดินทางบ่อย การวางแผนเตรียมงานก่อนตรวจเยี่ยม ต้องมีความรับผิดชอบตัวเองสูง ทำงานภายใต้แรงกดดันจากผู้ให้ทุนและทีมวิจัย ทั้งยังต้องพยายามทำงานให้ได้ตามเป้าหมาย ถูกต้อง ในเวลาที่กำหนด เช่น กำหนดว่าการไปตรวจเยี่ยมสถานที่วิจัยจะต้องตรวจเช็คCRF จำนวนกี่ฉบับและงานอื่นๆให้เสร็จตามเวลาที่กำหนด คุณภาพของการวิจัยส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับCRA หากCRAมีประสบการณ์ มีทักษะในการเจรจาต่อรอง สร้างสัมพันธภาพกับทีมวิจัยได้ ตรวจเอกสารเก่ง ให้คำแนะนำดี ย่อมทำให้ผลการวิจัยออกมามีคุณภาพ ข้อมูลผิดพลาดน้อย  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความใหม่

ชุดตรวจโรคด้วยตัวเองที่บ้าน Home Use Test

ชุดตรวจโรคด้วยตัวเองที่บ้าน Home Use Test ปัจจุบันนี้ชุดตรวจโรคด้วยตัวเองที่บ้านมีใช้กันอย่างแพร่หลาย สามารถอำนวยความสะดวกให้เราได้ตรวจโรค...

บทความแนะนำ