CRC Café : ประเทศอินโดนีเซีย Indonesia

วันพุธที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

ประเทศอินโดนีเซีย Indonesia

อินโดนีเซีย Indonesia

บาหลี จายาปุระ และ เมาเมอเร่

Jayapura, Papua and Maumere, Sikka District, East Nusa Tenggara Province, Indonesia

มักได้ยินเสมอว่าชาวตะวันตกชอบเที่ยวประเทศอินโดนีเซีย โดยเฉพาะบาหลี เมื่อประมาณปี 2008 ซัก 10 กว่าปีที่แล้วมีโอกาสได้ไปทำงานที่ประเทศอินโดนีเซียและได้ไปแวะเปลี่ยนเครื่องบินหลายเกาะ ทำให้เห็นว่า ประเทศนี้มีเสน่ห์เพราะมีความหลากหลายในวัฒนธรรม แต่ละเกาะก็ไม่เหมือนกันซะทีเดียว อาหารก็อร่อยถูกปาก 

    ขอบคุณแผนที่จากGoogle Map

การเดินทาง แต่ละทริปที่ไปจะใช้เวลาอย่างน้อย 2 อาทิตย์ ประเทศอินโดนีเซียเป็นหมู่เกาะการเดินทางภายในประเทศจึงใช้เครื่องบินกับเรือเป็นหลัก โดยบินจากกรุงเทพ ไปนอนจากาตาร์ หรือบาหลี 1 คืน จากนั้นก็ต่อเครื่องไปเกาะซุมบา (Sumba) หรือ ติมิก้า ปาปัว (Timika, Papua) หรือที่ไหนก็จำไม่ค่อยได้ บางครั้งอาจต้องรอต่อเครื่องอีก 1 คืน ซึ่งก็เป็นความกรุณาของเลขาฝ่ายอินโดนีเซียที่อยากให้มีประสบการณ์ เลยได้ต่อเครื่องหลายเกาะ เวลาจะเปลี่ยนเครื่องก็ต้องคอยจำว่าเทียวนี้ต้องต่อเครื่องที่เกาะไหน ชื่อก็จำยากซะด้วย แต่เนื่องจากเป็นคนไทยอยู่คนเดียวในเครื่องแอร์โฮสเตสจึงมาคอยเตือนให้ลงไปต่อเครื่อง มิฉะนั้นจะไปผิดเกาะ แต่ละที่ที่ไปไม่เห็นมีคนไทยเลย เจ้าหน้าที่ตามสนามบินจึงจำได้ พอเห็นหน้าก็จะทักทายว่า มิสไทยแลนด์ มงลงไม่รู้ตัว 

ชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมีอัธยาศัยดีคล้ายคลึงกัน พอขึ้นเครื่อง ลงนั่งปั๊บก็หันมาคุยกับคนข้างๆ เหมือนเป็นญาติกันมาแต่ชาติปางก่อน อ้ายเราก็นั่งนิ่งๆก็จะทักพูดคุยกับเรา ก็เลยต้องบอกไปว่า ไม่ใช่คนอินโดนีเซีย เป็นคนไทย เท่านั้นแหละ บอกต่อๆกันไป เดินมาดูหน้าดูตาทักทายกันใหญ่ จริงหน้าตาเราก็เหมือนเขากัน ถ้าไม่คุยก็ไม่มีใครรู้ มีอยู่ครั้งหนึ่งได้นั่งคู่กับหนุ่มชาวเกาะSumba คุยเก่งมากบอกว่าเมียตาย กำลังหาเมียใหม่ชวนเราไปเที่ยวซะเฉยๆ อ้ายเราต้องรีบไปทำงาน ไม่งั้นคงอาจไปเป็นชาวเกาะ

มีคืนนึงกำลังนั่งรอต่อเครื่องไปจายาปูระอยู่คนเดียวที่สนามบิน ซักพักก็มีเครื่องลำใหม่มาลง มีผู้ชายแต่งกายแบบชนเผ่าในเกาะปาปัวซัก 20-30 คนน่าจะกลับจากการโชวร์ตัว ลงมานั่งล้อมรอบเรา ทำเอาอึ้ง จะลุกก็ไม่กล้าลุก กลัวเขาจะหาว่ารังเกียจ นั่งไปซักพักค่อยๆลุกไปเข้าห้องน้ำ ในที่สุดก็ได้ไปจายาปูระเครื่องเดียวกันอะ เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นชนเผ่าแบบใน National Geographic แบบตัวเป็นๆ

ถึงจายาปุระ เสร็จภารกิจ ออกจากจายาปุระ กลับมานอนบาหลีอีกเพื่อต่อเครื่องไปเกาะเมาเมอเร่ เสร็จภารกิจออกจากเมาเมอเร่ กลับมานอนบาหลี กลับกรุงเทพ ใช้เวลาอย่างน้อย 2 อาทิตย์ 

ที่ประเทศอินโดนีเซียเครื่องบินดีเลย์ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะอากาศแปรปรวนมาก ฝนตกหนัก พายุเข้า แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด เป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติ ต้องทำใจและทำให้คุ้นเคยกับการนอนพักแถวสนามบิน ชอบกินก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นเนื้อที่สนามบินยามเครื่องดีเลย์ และทำให้มีเวลาเลือกซื้อเสื้อผ้าบาติก เคยติดเกาะนั่งมองทะเลเป็นเดือนเพราะอากาศไม่ดีเดินทางไม่ได้ เคยถามเขาว่าจะไปทางอื่นได้ไหม เขาชี้ไปที่เรือเดินทะเล แล้วบอกว่า เดือนนึงคงถึงบาหลี ตอนนั้นอินเตอร์เนตก็หายากหาที่ส่งได้วันละครั้งก็บุญแล้ว smart phone ก็ยังไม่ smart ทางกรุงเทพก็ห่วง โทรติดต่อก็ยาก แถมแพงอีกต่างหาก  

บาหลี Bali ตอนมาครั้งแรกไปแวะจากาต้าร์แล้วไปจายาปุระ แต่ไม่ค่อยชอบจากาตาร์เพราะเป็นเมืองใหญ่ ไปไหนมาไหนลำบาก เหมือนไม่ค่อยจะปลอดภัย พอลองมาต่อเครื่องที่บาหลีชอบมาก เพราะเป็นเมืองท่องเที่ยว ไปไหนมาไหนสะดวก คนพูดภาษาอังกฤษได้ เลยติดใจ แวะทุกครั้ง ต้องทนมองมองฉากโรแมนติกของคู่ฮันนีมูนรอบๆตัว มาคนเดียวอะ ชอบนอนใกล้ๆสนามบินที่เดนปาซาร์ (Denpasar) แถวหาดกูตา (Kuta beach) มีแหล่งช๊อปปิ้งคล้ายๆพัทยา ภูเก็ต 

ที่หาดกูตามีคนมาเล่นกระดานโต้คลื่นและนั่งพักผ่อนตามชายหาดเยอะมาก มีอาหารเป็นชุดมีข้าว ปลาหรือไก่ ผัก และ Sambai เครื่องจิ้มยอดฮิตของชาวอินโดนีเซีย แต่ละที่จะมีรสชาติที่ต่างกันเล็กน้อย มีแบบบรรจุขวดด้วย แต่ทำใหม่ๆอร่อยมาก แถมมักมีข้าวเกรียบหลากชนิดแถมให้กินกับข้าวฟรี อันนี้ชอบมากๆ   

เวลาไปนอนโรงแรมชอบน้ำตะไคร้และสบู่กลิ่นลีลาวดีมาก แต่ไม่ชอบหินประดับที่ออกแนวหลอนๆ


จายาปุระ Jayapura ฟังชื่อครั้งแรกนึกถึงเมืองในนิยาย เมืองนี้ตั้งอยู่บนเกาะปาปัว ก่อนจะไปเพื่อนบอกว่าระวังมนุษย์กินคนด้วยนะ ก็ไม่ได้กลัวนะ เพราะคิดว่าเขาคงอาศัยอยู่ในป่าลึก แต่วันนึงออกไปเดินเล่นคนเดียว เพื่อร่วมงานตามหากันใหญ่ แล้วบอกว่าทีหลังจะไปไหนบอก จะให้คนพาไป

ใช้เวลาเดินทางใช้เวลานานเพราะขาไปเครื่องบินเล่นทวนลม แต่พอถึงมองลงไปจากเครื่องเห็นเทือกเขาสวยงามมาก 

ยิ่งพอลงเครื่องต้องตกตะลึง คิดว่าฉันมาผิดทวีปรึเปล่า เพราะไม่เคยคิดเลยว่า หน้าตาคนอินโดนีเซียบนเกาะนี้หน้าตาจะเหมือนชาวแอฟริกัน ผู้คนอัธยาศัยดี คนที่เกาะนี่ส่วนใหญ่นับถือคริสต์ ตามถนนมีร้านขายหมาก มีคนจับกลุ่มนั่งเล่นไพ่ มีตลาดนัดที่ผักผลไม้ก็คล้ายคลึงบ้านเรา 

ยิ่งมาได้กิน ปลาทอด หรือไก่ทอด กับ เครื่องจิ้ม Sambal tomato (ที่ทำจาก พริกชี้ฟ้าสีแดง มะเขือเทศ กระเทียม กะปิ เกลือและใบโหระพา)  พอได้กลิ่นกะปิ น้ำตาจิไหลเพราะคิดถึงบ้านเรา พริกที่นี่จะเผ็ดแรงแต่หายเผ็ดเร็ว ก็มาคิดว่า โลกมันกลม การที่คนชอบเดินทางทำให้วัฒนธรรมและชาติพันธ์เลยมีความเกี่ยวพันกัน ละม้ายคล้ายคลึงกัน อาหารที่ชอบอีกอย่างคือ แกงเหมือนฉู่ฉี่บ้านเราเขาจะมีผักแนมมากินด้วย เช่นใบมะละกออ่อนลวกมีรสขมน้อยๆตัดกับความเผ็ดเข้ากันได้ดี เพื่อนยังเอามะละกอสุกมาทำน้ำมะละกอ แช่เย็น และได้กินทุกครั้งที่ไป ที่นี่ปกติเขากินข้าวด้วยมือ ก็เลยกินตามเขา ทำให้เพื่อนร่วมงานชาวจายาปุระประทับใจว่าเราก็กินข้าวด้วยมือเป็นเหมือนกัน 

ที่มีความประทับใจกับการทำงานพนักงานธนาคารที่เราต้องไปแลกเงินเป็นประจำเกือบทุกครั้งที่ไป เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ของเกาะนี้อ่านหนังสือไม่ออก เธอจะอ่านพร้อมทั้งเอานิ้วชี้ไปที่คำที่เธออ่านให้ลูกค้าดู บริการและอธิบายแต่ละคนนานมาก


เมาเมอเร่ Maumere เกาะนี้มีนักท่องเที่ยวฝรั่งมาดำน้ำมาก แต่รายได้หลักเป็นการส่งอาหารทะเลไปขายนักท่องเที่ยวที่บาหลี มีอยู่ครั้งนึงติดอยู่ที่เกาะนี้นานหลายวันเพราะเครื่องเต็ม ต้องใช้เส้นเพื่อนขอไปแทนปลาซักลัง 2 ลัง จึงได้กลับบ้าน 

ที่พักที่อยู่อยู่ริมหาด  มีข้าวไข่เจียวและข้าวผัดเป็นอาหารหลัก คลื่นที่นี่บางครั้งแรง และใหญ่จริงๆ

หญิงชาวเมาเมอเร่สวมผ้าทอมือที่ส่วนใหญ่ทำเอง ด้วยสีที่มาจากเปลือกไม้ธรรมชาติ มีความทนทานยิ่งเก่ายิ่งสวย  วิธีการนุ่งก็ไม่เหมือนบ้านเรา 

คนที่นี้จะใช้งาช้างมาสู่ขอ แต่เนื่องจากงาช้างแพงมาก บางทีก็เช่า งาช้างที่นี่จะเป็นสีดำเพราะเก่าเป็นร้อยๆปี

เวลาฝนตกตกหนักมากจริงๆ หนักจนฝรั่งที่มาด้วยถามว่าไม่กลัวเหรอ ตอบว่า มาถึงนี่แล้ว จะกลัวอะไร อยู่ที่ไหนถ้าถึงเวลาตายก็ตายคงหนีไม่พ้น

วันสุดท้ายก่อนลาจากเพื่อนบอกว่า รู้ไหมว่าใต้ทะเลที่นี่ยังมีภูเขาไฟที่คุอยู่ และเกาะนี้เคยมีสึนามิล้างเกาะเมื่อปี 1992 ตอนนั้นเขาเป็นเด็กกำลังเล่นน้ำอยู่ รอดมาได้ แล้วเพิ่งจะมาบอก ถึงว่าสงสัยอยู่ว่าบางครั้งคลื่นแรงมาก

ประเทศนี้มีแผ่นดินไหว สึนามิ ภูเขาไฟระเบิด เป็นประจำ วิธีการเตือนคนในประเทศให้รู้มักทำโดยการส่งข่าวทางโทรทัศน์เป็นตัววิ่ง คงเพราะเกิดภัยธรรมชาติบ่อยและวันหยุดเยอะคนของประเทศนี้จึงไม่ค่อยจะเร่งรีบอะไร ค่อยๆทำงานไป เช่น เห็นเขาทำตึกในโรงพยาบาล และก็สระว่ายน้ำที่รีสอร์ทที่พักไปกี่ครั้งๆก็เหมือนเดิม ค่อยๆทำไปเรื่อยๆจริงๆ การเจรจาต่อรองก็ไม่เคยได้คำตอบสุดท้ายออกมา 

ละครทีวีที่นี่ถึงฟังไม่ออกก็รู้ว่า ใครเป็นตัวร้าย ตัวดี แต่งหน้าจัด ทั้งสวยทั้งหล่อ แสดงออกทางหน้าตาชัดมาก เกมโชวร์ก็ตลกดี

อาหารการกิน ผลหมากรากไม้บ้านเขาก็คล้ายๆบ้านเรา มี เช่น ทุเรียน มะพร้าว มะม่วง เงาะ ลองกอง กล้วย แต่รสชาติสู้บ้านเราไม่ได้เลย แต่ชอบสละเขากรอบหวานอร่อยมากแต่ก็สู้สละสุมาลีบ้านเราไม่ได้ เขามี Coffee cola แล้วก็น้ำที่ทำจากผลไม้ชื่อ Srisak แบบกระป๋องอร่อยดี กินแล้วสดชื่น เขาชื่นชอบพันธ์ไม้บ้านเรา เช่น บอนสี ของที่ได้ติดไม้ติดมือกับมาเป็นที่ระลึกก็เป็นเครื่องประดับที่ทำจากเงิน ทอง ไม้ และผ้าบาติก ไข่มุกก็มีแต่ของดีก็จะแพงมาก 

ผู้คน ธรรมชาติ อาหาร วัฒนธรรมของประเทศอินโดนีเซียที่พบมาเป็นสิ่งที่ต้องจารึกจดจำไม่มีวันลืม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความใหม่

ชุดตรวจโรคด้วยตัวเองที่บ้าน Home Use Test

ชุดตรวจโรคด้วยตัวเองที่บ้าน Home Use Test ปัจจุบันนี้ชุดตรวจโรคด้วยตัวเองที่บ้านมีใช้กันอย่างแพร่หลาย สามารถอำนวยความสะดวกให้เราได้ตรวจโรค...

บทความแนะนำ